ด้วยราคาน้ำมันที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และความใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อมที่มากขึ้น ทำให้รถ Hybrid กลายเป็นตัวเลือกยอดนิยมของคนไทยในปี 2025 โดยรถยนต์ไฮบริดจะมีจุดเด่นตรงเทคโนโลยีที่ผสมผสานระหว่างเครื่องยนต์ธรรมดากับมอเตอร์ไฟฟ้า ทำให้ประหยัดน้ำมันได้มากกว่ารถยนต์ทั่วไป และยังช่วยลดมลพิษอีกด้วย
ปัจจุบันมีรถไฮบริด 2025 หลากหลายรุ่นให้เลือกในตลาดรถยนต์ไทย แต่จะเลือกรุ่นไหนดี? วันนี้ประกันติดโล่จะพาคุณไปรู้จักกับรถ Hybrid ที่น่าสนใจที่สุดในปีนี้ พร้อมแนะนำว่ารุ่นไหนที่เหมาะกับความต้องการและการใช้งานของคุณ มาดูกันเลยครับ
เลือกเพื่ออ่านได้เลย ซ่อน
แนะนำ 9 ยี่ห้อรถ Hybrid 2025 ราคาไม่เกินล้าน
ราคาจำหน่ายของรถไฮบริด Honda City e:HEV
ราคาจำหน่ายของรถไฮบริด Mitsubishi Xpander HEV
ราคาจำหน่ายของรถไฮบริด Toyota Yaris Cross
ราคาจำหน่ายของรถไฮบริด MG VS HEV
ราคาจำหน่ายของรถไฮบริด MG3 Hybrid+
ราคาจำหน่ายของรถไฮบริด BYD SEALION 6 DM-I
ราคาจำหน่ายของรถไฮบริด Nissan Kicks e-POWER
ราคาจำหน่ายของรถไฮบริด Honda HR-V e:HEV
ราคาจำหน่ายของรถไฮบริด Haval Jolion
สรุป ทำประกันรถยนต์ไฮบริดกับประกันติดโล่ อุ่นใจทุกเส้นทาง
แนะนำ 9 ยี่ห้อรถ Hybrid 2025 ราคาไม่เกินล้าน

ในปี 2025 ตลาดรถไฮบริดในไทยมีให้เลือกหลากหลายทั้งรถขนาดเล็กที่คล่องตัวเหมาะกับการขับในเมือง รถอเนกประสงค์ที่ใช้งานได้หลากหลาย ไปจนถึงรถสำหรับครอบครัวที่ต้องการพื้นที่กว้างขวาง โดยรุ่นรถไฮบริดที่เรานำมาแนะนำในบทความนี้ จะมีราคาไม่เกินหนึ่งล้านบาท เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการก้าวเข้าสู่โลกยานยนต์ไฟฟ้า แต่ยังไม่พร้อมสำหรับรถ EV ครับ
1. Honda City e:HEV

Honda City e:HEV ถือเป็นรถยนต์ไฮบริดขนาดเล็กที่ได้รับความนิยมอย่างมากในตลาดไทย ด้วยความโดดเด่นในด้านการประหยัดน้ำมันที่สูงถึง 27.8 กิโลเมตรต่อลิตร มาพร้อมกับเครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตรที่ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าอย่างลงตัว ให้กำลังรวมสูงสุดถึง 109 แรงม้า แรงบิด 253 นิวตันเมตร ทำให้การขับขี่ในเมืองเป็นเรื่องสนุก คล่องตัว และประหยัดพลังงาน นอกจากนี้ยังมีให้เลือกทั้งแบบ 4 ประตูซีดาน และ 5 ประตูแฮตช์แบ็ก พร้อมอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน และระบบความปลอดภัย Honda SENSING ที่ทันสมัยเป็นมาตรฐานทุกรุ่นครับ
ราคาจำหน่ายของรถไฮบริด Honda City e:HEV
- Honda City e:HEV รุ่น SV ราคา 769,000 บาท
- Honda City e:HEV รุ่น RS ราคา 839,000 บาท
- Honda City Hatchback e:HEV รุ่น SV ราคา 729,000 บาท
- Honda City Hatchback e:HEV รุ่น RS ราคา 799,000 บาท
2. Mitsubishi Xpander HEV

Mitsubishi Xpander HEV ตอบโจทย์ครอบครัวที่ต้องการรถกว้างขวาง 7 ที่นั่ง แต่ยังอยากได้ความประหยัดของรถยนต์ไฮบริด ด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 1.6 ลิตร ผสานการทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า ให้กำลังสูงสุด 116 แรงม้า และแรงบิดรวมถึง 250 นิวตันเมตร ทำให้สามารถรองรับผู้โดยสารและสัมภาระได้เป็นอย่างดี มีอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย 19 กิโลเมตรต่อลิตร ที่ถือว่าดีมากสำหรับรถ MPV ขนาดนี้ พื้นที่ภายในออกแบบมาอย่างชาญฉลาดให้สามารถปรับเปลี่ยนได้หลากหลายรูปแบบตามความต้องการใช้งาน และระบบกันสะเทือนที่นุ่มนวลช่วยให้การเดินทางไกลสบายยิ่งขึ้นครับ
ราคาจำหน่ายของรถไฮบริด Mitsubishi Xpander HEV
- Mitsubishi Xpander HEV ราคา 933,000 บาท
3. Toyota Yaris Cross

Toyota Yaris Cross เป็นรถไฮบริดแบบ Crossover SUV ขนาดซับคอมแพกต์ที่มาแรงในปี 2025 ด้วยการผสมผสานระหว่างความคล่องตัวของรถเล็กกับความอเนกประสงค์ของ SUV ได้อย่างลงตัว มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า ให้กำลังรวมสูงสุด 111 แรงม้า มีอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันที่ยอดเยี่ยมถึง 26.3 กิโลเมตรต่อลิตร พร้อมระบบความปลอดภัย Toyota Safety Sense ในรุ่น Premium และ Premium Luxury ที่ช่วยเพิ่มความมั่นใจในการขับขี่ โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่ต้องเดินทางทั้งในเมืองและการเดินทางไกลต่างจังหวัดครับ
ราคาจำหน่ายของรถไฮบริด Toyota Yaris Cross
- Toyota Yaris Cross รุ่น HEV Smart ราคา 789,000 บาท
- Toyota Yaris Cross รุ่น HEV Premium ราคา 849,000 บาท
- Toyota Yaris Cross รุ่น HEV Premium Luxury ราคา 899,000 บาท
4. MG VS HEV

MG VS HEV โดดเด่นด้วยดีไซน์สไตล์ Crossover SUV ที่ทันสมัยและโฉบเฉี่ยว มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าอย่างลงตัว ให้กำลังรวมสูงถึง 177 แรงม้า ซึ่งถือว่าแรงมากในกลุ่มรถยนต์ไฮบริดขนาดนี้ และประหยัดน้ำมันด้วยอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย 24.4 กิโลเมตรต่อลิตร มาพร้อมระบบความปลอดภัย ADAS ที่ทันสมัยและระบบอำนวยความสะดวก i-SMART เป็นมาตรฐาน รวมทั้งอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการรถสไตล์ SUV ในงบไม่เกิน 8 แสนบาท
ราคาจำหน่ายของรถไฮบริด MG VS HEV
- MG VS HEV รุ่น D ราคา 699,000 บาท
- MG VS HEV รุ่น X ราคา 759,000 บาท
5. MG3 Hybrid+

MG3 Hybrid+ เป็นรถแฮตช์แบ็กไฮบริดราคาประหยัดที่สุดในตลาดขณะนี้ มาพร้อมดีไซน์สปอร์ตโฉบเฉี่ยวที่ดึงดูดสายตา ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูง ให้แรงบิดสูงสุดถึง 250 นิวตันเมตร ทำให้การขับขี่มีความสนุกและคล่องตัวในเมือง ประหยัดน้ำมันด้วยอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย 22.72 กิโลเมตรต่อลิตร ที่สำคัญคือมาพร้อมแบตเตอรี่ที่ได้รับการรับประกันยาวนานถึง 10 ปีไม่จำกัดระยะทาง ทำให้ผู้ใช้มั่นใจได้ว่า จะไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมในระยะยาว เหมาะสำหรับผู้ที่กำลังมองหารถไฮยนต์บริดราคาประหยัดเป็นคันแรกครับ
ราคาจำหน่ายของรถไฮบริด MG3 Hybrid+
- MG3 Hybrid+ รุ่น D ราคา 579,900 บาท
- MG3 Hybrid+ รุ่น X ราคา 619,900 บาท
6. BYD SEALION 6 DM-I

BYD SEALION 6 DM-I เป็นรถ SUV ปลั๊กอินไฮบริดที่มาพร้อมเทคโนโลยีล้ำสมัยจากแบรนด์จีนที่กำลังมาแรงในตลาดรถยนต์ไทย ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าประสิทธิภาพสูง โดดเด่นที่สามารถวิ่งด้วยไฟฟ้าล้วนได้ไกลถึง 95 กิโลเมตร ซึ่งเหมาะมากกับการใช้งานในเมือง และมีอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย 21.18 กิโลเมตรต่อลิตร มาพร้อมแบตเตอรี่ Blade Battery ที่มีความปลอดภัยสูง ออกแบบมาให้ทนทานต่อการเจาะทะลุและความร้อนสูง พร้อมระบบความปลอดภัยและอุปกรณ์อำนวยความสะดวกที่ครบครัน
ราคาจำหน่ายของรถไฮบริด BYD SEALION 6 DM-I
- BYD SEALION 6 DM-I รุ่น Dynamic ราคา 939,900 บาท
7. Nissan Kicks e-POWER

Nissan Kicks e-POWER โดดเด่นด้วยเทคโนโลยีไฮบริดที่แตกต่างจากรุ่นอื่นๆ ด้วยการใช้เครื่องยนต์เบนซิน 1.2 ลิตร เป็นเพียงตัวปั่นไฟให้กับมอเตอร์ไฟฟ้าเท่านั้น ทำให้ได้ความรู้สึกในการขับขี่เหมือนรถยนต์ไฟฟ้า 100% แต่ไม่ต้องกังวลเรื่องการชาร์จไฟ มอเตอร์ไฟฟ้าให้กำลังสูงสุด 100 แรงม้า และแรงบิดสูงถึง 280 นิวตันเมตร ทำให้ตอบสนองได้ฉับไวในทุกสภาวะการขับขี่ พร้อมอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย 23.6 กิโลเมตรต่อลิตร มาพร้อมระบบ One-Pedal ที่ช่วยให้การขับขี่ในเมืองสะดวกยิ่งขึ้น เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการสัมผัสประสบการณ์การขับขี่รถไฟฟ้า แต่ยังไม่พร้อมเปลี่ยนมาใช้รถ EV อย่างเต็มตัวครับ
ราคาจำหน่ายของรถไฮบริด Nissan Kicks e-POWER
- Nissan Kicks e-POWER รุ่น E ราคา 779,900 บาท
- Nissan Kicks e-POWER รุ่น V ราคา 849,900 บาท
- Nissan Kicks e-POWER รุ่น VL ราคา 919,900 บาท
- Nissan Kicks e-POWER รุ่น Star Edition ราคา 939,000 บาท
- Nissan Kicks e-POWER รุ่น AUTECH ราคา 979,900 บาท
8. Honda HR-V e:HEV

Honda HR-V e:HEV เป็นรถ SUV ขนาดซับคอมแพกต์ที่มาพร้อมดีไซน์สปอร์ตทรงคูเป้ที่ดูทันสมัย ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าที่ทรงพลัง ให้กำลังรวมสูงถึง 131 แรงม้า และแรงบิด 253 นิวตันเมตร ทำให้การขับขี่มีความสนุกและราบรื่น มีอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันที่ดีเยี่ยมถึง 25.6 กิโลเมตรต่อลิตร มาพร้อมพื้นที่ภายในกว้างขวางและเบาะนั่ง ULTRA Seats ที่สามารถปรับได้หลากหลายรูปแบบ ตอบโจทย์การใช้งานที่หลากหลาย พร้อมระบบความปลอดภัย Honda SENSING ที่ครบครัน ทำให้เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการรถ SUV ขนาดกะทัดรัดที่มีประสิทธิภาพสูงครับ
ราคาจำหน่ายของรถไฮบริด Honda HR-V e:HEV
- Honda HR-V e:HEV รุ่น E ราคา 949,000 บาท
9. Haval Jolion

Haval Jolion เป็นรถ SUV ไฮบริดน้องใหม่จากแบรนด์จีนที่นำเสนอความคุ้มค่าในด้านอุปกรณ์และเทคโนโลยีที่ครบครัน มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า ให้กำลังรวมสูงถึง 190 แรงม้า และแรงบิดมหาศาลที่ 375 นิวตันเมตร ซึ่งถือว่าสูงที่สุดในกลุ่ม มีอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันที่ดีถึง 23.8 กิโลเมตรต่อลิตร มาพร้อมระบบความปลอดภัยและระบบช่วยขับขี่ที่ทันสมัยเป็นมาตรฐานทุกรุ่น รวมถึงหน้าจอทัชสกรีนขนาดใหญ่ ระบบเชื่อมต่อสมาร์ตโฟน และฟังก์ชันอำนวยความสะดวกต่างๆ ที่ครบครัน ทำให้เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่มองหารถ SUV ไฮบริดที่มีอุปกรณ์ครบครันในราคาที่เข้าถึงได้ครับ
ราคาจำหน่ายของรถไฮบริด Haval Jolion
- Haval Jolion รุ่น Sport ราคา 799,000 บาท
- Haval Jolion รุ่น Ultra ราคา 999,000 บาท
สรุป ทำประกันรถยนต์ไฮบริดกับประกันติดโล่ อุ่นใจทุกเส้นทาง
จากข้อมูลข้างต้น คุณจะเห็นว่ารถไฮบริด 2025 มีให้เลือกหลากหลายรุ่น หลากหลายราคา ตั้งแต่ 5 แสนกว่าบาทไปจนถึงเกือบล้านบาท ขึ้นอยู่กับความต้องการและการใช้งานของคุณว่าต้องการรถแบบไหน ขนาดเท่าไหร่ และมีงบประมาณเท่าใด แต่ไม่ว่าคุณจะเลือกรถไฮบริดรุ่นไหน สิ่งหนึ่งที่ไม่ควรมองข้ามคือการทำประกันรถยนต์ที่เหมาะสม
ประกันติดโล่พร้อมดูแลรถยนต์ไฮบริดของคุณด้วยแผนประกันรถยนต์ที่ครอบคลุมทุกความเสี่ยง ทั้งอุบัติเหตุ ภัยธรรมชาติ และความเสียหายต่อตัวรถ รวมถึงแบตเตอรี่และระบบไฮบริดที่มีมูลค่าสูง พร้อมบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมงทั่วประเทศ ให้คุณขับรถไฮบริดได้อย่างอุ่นใจในทุกเส้นทาง เปรียบเทียบและเลือกแผนประกันที่เหมาะกับคุณได้ง่ายๆ ที่ประกันติดโล่ การันตีราคาที่คุ้มค่าและความคุ้มครองที่ครอบคลุมครับ
ใหม่ NEW BMW M5 CS 2023-2024 ราคา BMW M5 CS ตารางผ่อน-ดาวน์
โพสโดย : admin / วันที่ : 4 April 2023

ใหม่ NEW BMW M5 CS 2023-2024 ราคา BMW M5 CS ตารางผ่อน-ดาวน์

BMW เผยโฉม BMW M5 CS สปอร์ตซีดานที่ถูกยกให้เป็นรุ่นที่แรงที่สุดของ BMW ในเวลานี้ มาพร้อมกับดีไซน์อันโดดเด่น และสมรรถนะการขับขี่ที่เร้าใจ
BMW M5 CS มาพร้อมกับเครื่องยนต์ V8 ขนาด 4.4 ลิตร Twin-Power Turbo ให้กำลังสูงสุด 635 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 750 นิวตัน-เมตร มอบอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 2.9 วินาที ซึ่งเร็วกว่า M5 Competition 0.2 วินาที และสามารถทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 306 กม./ชม.
BMW M5 CS ราคา 14,599,000.
- รับสมัครเซลล์ประจำเว็บไซต์ติดต่อ
- โทร. 086-1290293
- LINE ID : 123456786205
BMW M5 CS ราคา ตารางผ่อน-ดาวน์

BMW M5 CS
รายละเอียดด้านเทคนิค
เครื่องยนต์เบนซิน 8 สูบ ขนาด 4,395 cc. เทคโนโลยี FM TwinPower Turbo มอบกำลังสูงสุด 635 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 750 นิวตัน-เมตรที่ 1,800 – 5,950 รอบ/นาที
ทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 3.0 วินาที ความเร็วสูงสุด 305 กม./ชม.
อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันอยู่ที่ 9.3 กม./ลิตร
ระดับการปล่อย CO2 เฉลี่ย 244 กรัม/กม.
มิติตัวรถ
ยาว 5,001 มม.
กว้าง 1,903 มม.
สูง 1,468 มม.
น้ำหนักตัวรถ 1,825 กก.
ล้ออัลลอย M ขนาด 20 นิ้ว ลาย Y-spoke
ขนาดยาง
ล้อหน้า : 9.5J × 20 / ยาง 275/35 ZR20 (102Y) XL
ล้อหลัง : 10.5J × 20 / ยาง 285/35 ZR20 (104Y) XL
ระบบขับเคลื่อนและเทคโนโลยี
– เกียร์อัตโนมัติ M 8 จังหวะ พร้อม Drivelogic และ gearshift paddle
– ระบบเฟืองท้าย Active FM
– ช่วงล่าง Adaptive พร้อมระบบ M-specific tuning
– ระบบปรับน้ำหนักพวงมาลัย TM Servotronic
– ระบบช่วยการขับขี่ [Driving Assistant)
– สวิตซ์ปรับแต่งการขับขี่ M-Specific: น้ำหนักพวงมาลัย ช่วงล่าง และระบบเครื่องเสียง
– ระบบ M-specific tuning (rear-biased)
– ระบบขับเคลื่อนอัจฉริยะ 4 ล้อ M xDrive
– ระบบ BMW Head-up Display
– ระบบช่วยนํารถเข้าที่จอดอัตโนมัติ (Parking Assistant)
– คันโยกปรับแต่งโหมดการขับขี่แบบ M selector พร้อมปุ่มควบคุม Drivelogic และปุ่ม P – ระบบท่อไอเสีย M Sport
– M Driver’s package
อุปกรณ์ภายนอก
– ระบบไฟหน้า BMW Laserlight
– ระบบปรับการทํางานไฟสูงอัตโนมัติ (High-beam Assistant
– เบรกคาร์บอนเซรามิก M
– ระบบปลดล็อกประตูอัจฉริยะ (Comfort Access System)
– กระจกมองข้างปรับไฟฟ้าพร้อม- ระบบตัดแสงอัตโนมัติ
– ภายนอกตกแต่งด้วยชุดแต่ง M สีดําเงา
– สัญลักษณ์ M5 CS พร้อมไฟส่องสว่างที่บริเวณกาบบันได – สปอยเลอร์หลังดีไซน์ M
อุปกรณ์ภายใน
– กระจกมองหลังตัดแสงอัตโนมัติ
– เบาะนั่งตอนหน้าปรับไฟฟ้าพร้อมระบบจําตําแหน่งเฉพาะฝั่งคนขับ
– เบาะนั่ง M Carbon ทรง bucket seats
– เบาะที่นั่งตอนท้ายแบบ 2 ที่นั่ง
– พวงมาลัยดีไซน์ M หุ้มด้วยหนัง Alcantara
– เข็มขัดนิรภัยดีไซน์ M
– ปุ่มควบคุมอุปกรณ์ตกแต่งด้วยเซรามิก
– ชุดไฟส่องสว่างภายในและภายนอกห้องโดยสาร (Ambient Light)
– เพดานหลังคาภายในดีไซน์ M บุด้วยวัสดุ Alcantara สี Anthracite
– ภายในห้องโดยสารตกแต่งดีไซน์ M ด้วยวัสดุอะลูมิเนียม-คาร์บอนสีเข้มตัดกับโครเมียมสีเข้ม
– ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบ 4 โซน
ระบบความบันเทิงและการสื่อสาร
– BMW Live Cockpit Professional
– ระบบ BMW ConnectedDrive
– ระบบเครื่องเสียงรอบทิศทาง Harman Kardon
– ระบบเชื่อมต่อ Smartphone
ความปลอดภัย
– ถุงลมนิรภัยสําหรับคนขับและผู้โดยสารตอนหน้า
– ถุงลมนิรภัยด้านข้างสําหรับคนขับและผู้โดยสารตอนหน้า
– ถุงลมนิรภัยศีรษะสําหรับผู้โดยสารตอนหน้าและหลัง (ยกเว้นผู้โดยสารตอนหลังกลาง)
– ระบบ Teleservices
– ปุ่มโทรออกฉุกเฉิน (Intelligent Emergency Call]
– ระบบควบคุมเสถียรภาพการขับขี่ [DSC]
– ระบบป้องกันล้อล็อกขณะเบรก (ABS)
– ระบบช่วยเสริมแรงเบรกอัตโนมัติ (Brake Assist)
– เซนเซอร์ควบคุมระบบความปลอดภัยเมื่อเกิดการชน (Crash Sensor)
– ระบบป้องกันการกระแทกจากด้านข้าง (Side Impact Protection)
– ระบบเตือนสถานะของยาง [Runflat Indicator)
– เซนเซอร์ควบคุมระยะการจอดด้านหน้าและหลัง
– ชุดปะยางฉุกเฉิน










