BMW M5 CS แรงที่สุดในรถตระกูล M เบนซิน V8 4.4 เทอร์โบคู่ 635 แรงม้า เบาะหลังแบบ Bucket Seat
30 มกราคม 2021 เวลา 22:21 น. | หมวดหมู่ New Cars : Worldwide, NEWS | โดย AE110 | อ่านไปแล้ว: 21273
ขั้นกว่าของ BMW M คือรุ่นที่ใช้รหัส CS พ่วงท้ายดังจะเห็นได้จาก M2 CS, M3 CS และ M4 CS บัดนี้ ค่ายใบพัดฟ้าขาวได้เสริมทัพตระกูลดังกล่าวกับ BMW M5 CS พกพากำลังมาสูงสุด 635 แรงม้า นับเป็นรุ่นที่แรงที่สุดในประวัติศาสตร์ของ BMW M เสริมด้วยการตกแต่งพิเศษรอบคัน และรีดน้ำหนักจากรุ่นปกติลงอีกราว 70 กิโลกรัม


BMW M5 CS มาพร้อมกับสีตัวถังพิเศษเฉพาะรุ่นระหว่าง สีเทา Frozen Brands Hatch Grey Metallic และ สีเขียว Frozen Deep Green Metallic เสริมด้วยโลโก้ชื่อรุ่นในสีทอง Gold Bronze บนกระจังหน้า, ครีบแก้มคู่หน้า และ ฝาท้าย ชุดแต่งรอบคันรวมไปถึงกระจกมองข้าง ทำจากคาร์บอนไฟเบอร์ ส่วนล้อมีขนาด 20 นิ้ว สีทอง Gold Bronze รัดด้วยยาง Pirelli P Zero Corsa track tyres ท่อไอเสียออกสี่ท่อ
ห้องโดยสารรองรับ 4 ที่นั่ง โดยเบาะคู่หน้าเป็น M Carbon Seat เบาะหลังเป็นแบบแยกทรง Bucket-Seat ทั้งหมดหุ้มด้วยหนัง Merino สีดำตัดด้วยสีแดง Mugello Red พนักพิงศีรษะพิมพ์เส้นทางรอบสนามแข่ง Nürburgring เสริมด้วยวัสดุ alcantara บนพวงมาลัย M และผ้าหลังคา ก้าน paddle shift ทำจากคาร์บอนไฟเบอร์ หน้าจอสัมผัสมีขนาด 12.3 นิ้ว ปิดท้ายด้วยโลโก้ CS บนแดชบอร์ดฝั่งผู้โดยสาร



ขุมพลังของ BMW M5 CS เป็น เครื่องยนต์เบนซิน แบบ V8 ขนาด 4,395 ซีซี. เทอร์โบคู่ กระบอกสูบ x ระยะช่วงชัก : 88.3 x 89.0 มิลลิเมตร อัตราส่วนกำลังอัด 10.0 : 1 กำลังสูงสุด 635 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 750 นิวตันเมตร ที่ 1,800 – 5,950 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ M Steptronic 8 จังหวะ ขับเคลื่อนสี่ล้อ M xDrive มีตัวเลขสมรรถนะดังนี้
- อัตราเร่ง 0 – 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ภายใน 3.0 วินาที
- อัตราเร่ง 0 – 200 กิโลเมตร/ชั่วโมง ภายใน 10.3 วินาที
- ความเร็วสูงสุดจำกัดไว้ที่ 305 กิโลเมตร/ชั่วโมง




ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อยังสามารถปิดให้เป็นขับเคลื่อนล้อคู่หลังได้ ช่วงล่างเป็นแบบ Adaptive M Suspension ปรับแต่งใหม่สำหรับรุ่นนี้โดยเฉพาะ ระบบเบรกเป็นแบบ M Carbon ceramic brakes พร้อมคาลิปเปอร์เบรกสีแดงประทับตรา M ด้านหน้ามีขนาด 6 สูบ ส่วนด้านหลังเป็นแบบสูบเดียว
BMW M5 CS เปิดตัวเมื่อวันที่ 27 มกราคม 2021 โดยจะออกจำหน่ายในระยะเวลาจำกัด และจะเริ่มส่งมอบในฤดูใบไม้ผลิ 2021 หรือราวเดือนมีนาคม – มิถุนายนนี้ สนนราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ประเทศเยอรมนี โดยไม่รวมภาษีนำเข้าของประเทศไทยที่ 180,400 ยูโร (ราว 6,539,000 บาท)



ที่มา: BMW
BAC รถสปอร์ตล้อเปิดที่นั่งเดียวจากแดนผู้ดี เตรียมเผยโฉมต้นแบบขุมพลังไฮโดรเจน
28 มกราคม 2022 เวลา 22:28 น. | หมวดหมู่ NEWS, World’s News | โดย PLUG_IN | อ่านไปแล้ว: 787 ครั้งhttps://platform.twitter.com/widgets/tweet_button.2f70fb173b9000da126c79afe2098f02.th.html#dnt=false&id=twitter-widget-0&lang=th&original_referer=https%3A%2F%2Fwww.headlightmag.com%2Fbac-joins-forces-with-viritech-to-bring-innovative-hydrogen%2F&size=m&text=BAC%20%E0%B8%A3%E0%B8%96%E0%B8%AA%E0%B8%9B%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B8%95%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B8%B4%E0%B8%94%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%99%E0%B8%B1%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%A7%E0%B8%88%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B9%81%E0%B8%94%E0%B8%99%E0%B8%9C%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B8%94%E0%B8%B5%20%E0%B9%80%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%A1%E0%B9%80%E0%B8%9C%E0%B8%A2%E0%B9%82%E0%B8%89%E0%B8%A1%E0%B8%95%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B9%81%E0%B8%9A%E0%B8%9A%E0%B8%82%E0%B8%B8%E0%B8%A1%E0%B8%9E%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B9%84%E0%B8%AE%E0%B9%82%E0%B8%94%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%88%E0%B8%99%20-%20HeadLight%20Magazine&time=1760316558198&type=share&url=https%3A%2F%2Fwww.headlightmag.com%2Fbac-joins-forces-with-viritech-to-bring-innovative-hydrogen%2F&via=Headlightmag
https://www.facebook.com/v2.0/plugins/share_button.php?app_id=634489746585708&channel=https%3A%2F%2Fstaticxx.facebook.com%2Fx%2Fconnect%2Fxd_arbiter%2F%3Fversion%3D46%23cb%3Df6893e8f44d840674%26domain%3Dwww.headlightmag.com%26is_canvas%3Dfalse%26origin%3Dhttps%253A%252F%252Fwww.headlightmag.com%252Ffa4d704d5c42235b5%26relation%3Dparent.parent&container_width=35&href=https%3A%2F%2Fwww.headlightmag.com%2Fbac-joins-forces-with-viritech-to-bring-innovative-hydrogen%2F&layout=button_count&locale=en_US&sdk=joey
แบรนด์ BAC ภายใต้ชื่อบริษัท Briggs Automotive Company เป็นบริษัทสัญชาติอังกฤษ ก่อตั้งเมื่อปี 2009 โดยมีรถสปอร์ตรุ่นแรก “Mono” ออกจำหน่ายเมื่อปี 2011 และตามมาด้วยเวอร์ชั่นที่มีสมรรถนะสูงกว่า “Mono R” เปิดตัวตามมาในปี 2019 ปัจจุบันมีจำนวนผู้แทนจำหน่ายรอบโลกอยู่ 12 แห่ง โดยมีโรงงานตั้งอยู่ที่เมือง Liverpool
จุดเด่นของรถสปอร์ตค่ายนี้คืออัตราส่วนแรงม้าต่อน้ำหนักที่ยากจะมีใครเทียบได้ ด้วยดีไซน์การออกแบบที่เหมือนรถแข่งเต็มพิกัด มีเพียงที่นั่งเดียว และมาพร้อมกับตัวถังที่ผลิตจากคาร์บอนไฟเบอร์ เมื่อพิจารณาหน้าตาแล้ว เจ้า Mono ก็คือรถแข่งขนาดกระทัดรัดที่สามารถนำมาวิ่งบนถนนอย่างถูกต้องตามกฎหมายนั่นเอง
สำหรับไฮไลท์ล่าสุดอยู่ที่การจับมือร่วมกับ Viritech บริษัทสัญชาติเดียวกัน ซึ่งเป็นผู้พัฒนาขุมพลัง Hydrogen-fuel cell ให้กับยานพาหนะหลากหลายประเภท ตั้งแต่ รถยนต์ เครื่องบิน เรือ และเครื่องจักรอุตสาหกรรม ซึ่งได้รับทุนสนับสนุนการวิจัยและพัฒนาจากองค์กร Office for Zero Emission Vehicles (OZEV) และ Innovate UK จากรัฐบาลสหราชอาณาจักร ซึ่งทำให้ Viritech สามารถพัฒนาขุมพลังไฮโดรเจน เพื่อตอบโจทย์ภาคอุตสาหกรรม ภายใต้ระบบที่มีประสิทธิภาพสูงในด้านการจัดการพลังงาน การจัดการกับแรงดันในระบบ และอุปกรณ์จัดเก็บเชื้อเพลิงไฮโดรเจนน้ำหนักเบา
แน่นอนว่าโปรเจ็คนี้จะเป็นการปฏิวัติรถสปอร์ตน้ำหนักเบา บนพื้นฐานของรุ่น Mono หรือเรียกได้ว่าเป็น Mono FCEV (Fuel Cell Electric Vehicles) สมรรถนะสูง ที่สามารถบรรลุเป้าหมาย zero emissions ภายในปี 2030 พร้อมทั้งมอบประสบการณ์การขับขี่ชั้นเลิศ นอกจากนี้ยังมีการคิดค้นวัสดุน้ำหนักเบาสำหรับรถสปอร์ต เช่น Graphene และ Niobium เพื่อตอบโจทย์การพัฒนารถสปอร์ตที่มีจุดแข็งด้านการขับขี่ ซึ่งน้ำหนักเป็นปัจจัยที่มีผลกระทบต่อสมรรถนะกว่ารถทั่วไป
ทาง BAC และ Viritech มั่นใจเป็นอย่างยิ่งว่า นี่จะเป็นจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญของวงการรถสปอร์ตสมรรถนะสูงน้ำหนักเบา ซึ่งถือว่าเป็นตลาดเฉพาะ แต่ก็สามารถนำแนวคิด zero emissions มาประยุกต์ใช้ได้เช่นเดียวกัน
ที่มา: BAC

